วิทยากร AI ที่ดีที่สุด 2024 เรียนรู้ปัญญาประดิษฐ์กับผู้เชี่ยวชาญระดับโลก

ในปี 2024 โลกแห่งปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง เทคโนโลยีนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องราวในนิยายวิทยาศาสตร์อีกต่อไป แต่ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันและทุกภาคส่วนของธุรกิจ ตั้งแต่การแนะนำสินค้าที่คุณอาจชื่นชอบ ไปจนถึงการวินิจฉัยโรคที่ซับซ้อน AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ในแบบที่เราไม่เคยคาดคิดมาก่อน ด้วยเหตุนี้เอง การแสวงหาความรู้และทักษะด้าน AI จึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนในยุคดิจิทัล แต่คำถามสำคัญคือ เราจะเรียนรู้จากใคร ท่ามกลางข้อมูลและคอร์สเรียนออนไลน์มากมาย การเลือกวิทยากรที่ใช่เปรียบเสมือนการมีแผนที่นำทางสู่ความสำเร็จในโลก AI การเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกไม่เพียงแต่ให้ความรู้ที่ถูกต้องและลึกซึ้ง แต่ยังมอบแรงบันดาลใจและมุมมองที่กว้างไกลอีกด้วย

เรียนรู้จากผู้บุกเบิกผู้สร้างตำนาน

การจะเข้าใจ AI อย่างถ่องแท้ เราอาจต้องย้อนกลับไปเรียนรู้จากผู้ที่ถูกขนานนามว่าเป็น "เจ้าพ่อ" แห่งวงการนี้ บุคคลเหล่านี้คือผู้บุกเบิกที่วางรากฐานสำคัญให้กับเทคโนโลยีที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน พวกเขาใช้เวลาทั้งชีวิตในการวิจัยและพัฒนาแนวคิดที่เคยถูกมองว่าเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นจริง การได้ศึกษาแนวคิดจากต้นทางจึงเป็นประสบการณ์ที่หาค่ามิได้ และเป็นกุญแจสำคัญในการปลดล็อกศักยภาพสูงสุดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์

แอนดรูว์ อึ้ง (Andrew Ng) ผู้ทำให้ AI เป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

หนึ่งในชื่อที่โดดเด่นที่สุดและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในฐานะวิทยากร AI คือ แอนดรูว์ อึ้ง (Andrew Ng) เขาคือผู้ร่วมก่อตั้ง Google Brain และอดีตหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Baidu แต่สิ่งที่ทำให้เขาเป็นที่รักของนักเรียนหลายล้านคนทั่วโลกคือการเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Coursera และการสร้างสรรค์คอร์สเรียนระดับตำนานอย่าง Machine Learning และ Deep Learning Specialization สไตล์การสอนของแอนดรูว์ อึ้ง มีความพิเศษคือสามารถย่อยเรื่องที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยคณิตศาสตร์ให้กลายเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย เขาเน้นการสร้างสัญชาตญาณและความเข้าใจในแนวคิดหลักก่อนที่จะลงลึกในรายละเอียดทางเทคนิค ทำให้ผู้เรียนที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อนก็สามารถติดตามและเรียนรู้ได้อย่างสนุกสนาน เขาเปรียบ AI ว่าเป็น "ไฟฟ้าใหม่" ที่จะขับเคลื่อนทุกอุตสาหกรรมในอนาคต และความมุ่งมั่นของเขาในการทำให้การศึกษา AI เป็นสิ่งที่ทุกคนเข้าถึงได้นั้นได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้กับวงการอย่างแท้จริง

เจฟฟรีย์ ฮินตัน (Geoffrey Hinton) ปรมาจารย์แห่ง Deep Learning

หากพูดถึง Deep Learning แล้ว คงไม่มีใครที่จะไม่นึกถึง เจฟฟรีย์ ฮินตัน (Geoffrey Hinton) หนึ่งในสามผู้รับรางวัล Turing Award ในปี 2018 ซึ่งเปรียบได้กับรางวัลโนเบลแห่งวงการคอมพิวเตอร์ ฮินตันคือผู้บุกเบิกคนสำคัญของแนวคิดเรื่องโครงข่ายประสาทเทียม (Neural Networks) และอัลกอริทึม Backpropagation ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการฝึกฝนโมเดล Deep Learning ในปัจจุบัน แม้ว่าเขาอาจจะไม่ได้มีคอร์สเรียนออนไลน์ที่โด่งดังเท่าแอนดรูว์ อึ้ง แต่การบรรยายและการพูดในงานสัมมนาต่างๆ ของเขานั้นเต็มไปด้วยความลึกซึ้งและวิสัยทัศน์ที่มองไปข้างหน้า การศึกษาผลงานและแนวคิดของฮินตันเปรียบเสมือนการเรียนรู้จากปรมาจารย์ผู้มองเห็นอนาคตของ AI มานานหลายทศวรรษก่อนที่มันจะกลายเป็นกระแสหลัก ความเข้าใจในงานวิจัยของเขาจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการก้าวไปสู่ระดับแนวหน้าของวงการนี้

คลื่นลูกใหม่และอนาคตของการเรียนรู้ AI

นอกเหนือจากผู้บุกเบิกแล้ว ยังมีวิทยากรยุคใหม่อีกหลายท่านที่สร้างสรรค์เนื้อหาการเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมและทันสมัย พวกเขาเหล่านี้นำเสนอความรู้ที่เจาะลึกในสาขาเฉพาะทางมากขึ้น เช่น Reinforcement Learning หรือ Computer Vision หรือแม้กระทั่งจริยธรรมของ AI การเรียนรู้ AI ในปี 2024 จึงเป็นการผสมผสานระหว่างการทำความเข้าใจรากฐานที่แข็งแกร่งจากผู้บุกเบิกและการติดตามนวัตกรรมล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญยุคใหม่ การเดินทางในโลกแห่งปัญญาประดิษฐ์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด มันคือการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและความน่าตื่นเต้น การเปิดใจรับความรู้จากหลากหลายแหล่งข้อมูลคือหนทางที่ดีที่สุดในการพัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของเทคโนโลยี

ยานน์ เลอคูน และ เฟย-เฟย ลี ผู้ขับเคลื่อน AI สู่มิติใหม่

นอกเหนือจากสองปรมาจารย์ที่ได้กล่าวไปแล้ว โลกของ AI ยังมีบุคคลสำคัญอีกท่านหนึ่งที่ได้รับรางวัล Turing Award พร้อมกันนั่นคือ ยานน์ เลอคูน (Yann LeCun) ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ AI ของ Meta เขาคือบิดาแห่ง Convolutional Neural Networks หรือ CNNs ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (Computer Vision) และเป็นรากฐานเบื้องหลังความสามารถในการจดจำใบหน้าในรูปภาพ การวิเคราะห์วิดีโอ หรือแม้กระทั่งรถยนต์ไร้คนขับ สไตล์ของยานน์ เลอคูนนั้นโดดเด่นในเรื่องการเชื่อมโยงงานวิจัยเชิงทฤษฎีเข้ากับการประยุกต์ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง เขามักจะนำเสนอแนวคิดที่ท้าทายและผลักดันให้วงการก้าวข้ามขีดจำกัดเดิมๆ การติดตามงานของเขาจึงเปรียบเสมือนการได้นั่งแถวหน้าชมอนาคตของ AI ที่กำลังก่อตัวขึ้นในห้องทดลองของหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และในขณะเดียวกันก็ยังมีอีกหนึ่งดาวจรัสแสงที่นำเสนอมุมมองที่แตกต่างและสำคัญอย่างยิ่งคือ ศาสตราจารย์ เฟย-เฟย ลี (Fei-Fei Li) จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เธอคือผู้ทรงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังโครงการ ImageNet ซึ่งเป็นชุดข้อมูลรูปภาพขนาดมหึมาที่กลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้เกิดการระเบิดของ Deep Learning ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ทำให้เธอยิ่งใหญ่กว่านั้นคือความมุ่งมั่นในการสร้าง "AI ที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง" (Human-Centered AI) เธอมองว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไม่ควรเป็นเพียงเครื่องมือที่ทรงพลัง แต่ต้องถูกพัฒนาขึ้นโดยคำนึงถึงคุณค่า ความเป็นธรรม และผลกระทบต่อสังคมมนุษย์เป็นสำคัญ การเรียนรู้จากเฟย-เฟย ลี จึงไม่ใช่แค่การเรียนรู้เรื่องอัลกอริทึม แต่คือการเรียนรู้ปรัชญาและจริยธรรมที่จะนำทางเราไปสู่การใช้ AI อย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ

ปรัชญาการเรียนรู้แห่งอนาคตและวิทยากรคลื่นลูกใหม่

เมื่อเราพูดถึงวิทยากรยุคใหม่ที่เปลี่ยนโฉมหน้าการศึกษา AI ไปอย่างสิ้นเชิง ชื่อของ เจเรมี ฮาวเวิร์ด (Jeremy Howard) และแพลตฟอร์ม fast.ai ของเขาจะต้องถูกกล่าวถึงเป็นอันดับต้นๆ เจเรมีนำเสนอปรัชญาการเรียนรู้ที่แตกต่างจากแนวทางดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาเชื่อในแนวทาง "จากบนลงล่าง" (Top-down) ซึ่งหมายถึงการให้ผู้เรียนได้ลงมือสร้างโมเดลที่ใช้งานได้จริงตั้งแต่สัปดาห์แรกของการเรียนรู้ พวกเขาจะได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่งก่อน แล้วจึงค่อยๆ เจาะลึกลงไปในทฤษฎีและคณิตศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลัง วิธีการนี้ได้ทลายกำแพงความกลัวและพิสูจน์ให้เห็นว่าใครก็ตามที่มีพื้นฐานการเขียนโค้ดก็สามารถเข้าสู่โลกของ Deep Learning ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีปริญญาเอกด้านคณิตศาสตร์ ความสำเร็จของ fast.ai ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับนักพัฒนาทั่วโลกและแสดงให้เห็นว่าการเข้าถึงความรู้ AI นั้นเปิดกว้างกว่าที่เคยเป็นมา การเรียนรู้จากเจเรมีจึงเหมือนการมีโค้ชส่วนตัวที่เชื่อมั่นในศักยภาพของคุณและพร้อมจะมอบเครื่องมือที่ดีที่สุดเพื่อให้คุณสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้ทันที

การคาดการณ์ทิศทางของโลก AI และการเรียนรู้ในวันข้างหน้า

มองไปในอนาคตอันใกล้ภูมิทัศน์ของการศึกษา AI กำลังจะเปลี่ยนแปลงไปอีกครั้งอย่างมหาศาล แนวโน้มแรกที่ชัดเจนคือการมุ่งสู่ความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง (Specialization) โลกจะไม่ได้ต้องการแค่ผู้ที่เข้าใจ Machine Learning แบบกว้างๆ อีกต่อไป แต่จะต้องการผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งในสาขาต่างๆ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ที่ขับเคลื่อน ChatGPT ปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) ที่สามารถสร้างภาพและเสียงได้ หรือการเรียนรู้แบบเสริมกำลัง (Reinforcement Learning) ที่เป็นหัวใจของหุ่นยนต์อัจฉริยะ ดังนั้นการเลือกเรียนรู้จากวิทยากรที่เป็นผู้นำในสาขาเฉพาะทางเหล่านั้นจึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความได้เปรียบในสายอาชีพแห่งอนาคต แนวโน้มที่สองคือการทำให้ AI เป็นประชาธิปไตย (Democratization) มากยิ่งขึ้น เราจะเห็นเครื่องมือและแพลตฟอร์มแบบ Low-code หรือ No-code AI เกิดขึ้นมากมาย ซึ่งจะช่วยให้คนที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ เช่น นักการตลาด นักออกแบบ หรือนักวิเคราะห์ธุรกิจ สามารถสร้างและประยุกต์ใช้ AI ได้ด้วยตนเอง บทบาทของวิทยากร AI ในอนาคตจึงอาจเปลี่ยนจากการสอนเขียนโค้ดที่ซับซ้อนไปสู่การสอนวิธีคิดเชิงวิพากษ์เกี่ยวกับการใช้ AI การตั้งคำถามที่ถูกต้อง และการตีความผลลัพธ์อย่างมีจริยธรรม การเรียนรู้จะไม่จำกัดอยู่แค่ในหมู่นักเทคนิคอีกต่อไป แต่จะกลายเป็นทักษะพื้นฐานสำหรับทุกคนในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง แนวโน้มสุดท้ายที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือการมาถึงของ AI แบบหลายรูปแบบ (Multimodal AI) ที่สามารถเข้าใจและประมวลผลข้อมูลหลากหลายชนิดพร้อมกันทั้งข้อความ รูปภาพ เสียง และวิดีโอ การเรียนรู้เกี่ยวกับสถาปัตยกรรมที่ซับซ้อนเหล่านี้จะเป็นความท้าทายใหม่ และวิทยากรที่สามารถอธิบายแนวคิดเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนจะกลายเป็นที่ต้องการอย่างสูง ในขณะเดียวกัน อัตราการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของเทคโนโลยีหมายความว่าความรู้ AI ที่เราเรียนในวันนี้อาจล้าสมัยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การเรียนรู้ตลอดชีวิตจึงไม่ใช่แค่ทางเลือกแต่เป็นความจำเป็น และบางทีในอนาคตอันไกล วิทยากร AI ที่ดีที่สุดอาจไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็น AI Tutor ส่วนบุคคลที่สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาและวิธีการสอนให้เข้ากับผู้เรียนแต่ละคนได้อย่างสมบูรณ์แบบ การเดินทางในโลกแห่งปัญญาประดิษฐ์จึงเป็นการผจญภัยที่ไม่สิ้นสุด เป็นการผสมผสานระหว่างการหยั่งรากความเข้าใจจากเหล่าผู้บุกเบิก และการโอบรับคลื่นนวัตกรรมลูกใหม่ที่ซัดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง การเปิดใจเรียนรู้จากทุกแหล่งข้อมูลและรักษาความกระหายใคร่รู้ไว้เสมอคือเข็มทิศที่ดีที่สุดที่จะนำทางเราให้ก้าวทันโลกที่หมุนไปอย่างรวดเร็วด้วยพลังของปัญญาประดิษฐ์

สำหรับผู้ที่อยู่ในประเทศไทยและกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่จะนำทางและให้คำปรึกษาด้าน AI อย่างใกล้ชิด เพื่อนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจหรือพัฒนาทักษะส่วนบุคคลให้ก้าวทันโลก สามารถปรึกษา วิทยากร ai อาจารย์แชมป์ ธิติพล เทียมจันทร์ โทร 0631979894 หรือ ทักไลน์ https://line.me/ti/p/@brandingchamp หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ https://www.thitiphon.com/ai